Pimdai.com พาร์ทเนอร์งานพิมพ์

5 เทคนิคเลือก กล่องลูกฟูก ให้ประหยัดค่าส่ง และปกป้องสินค้าได้ดี

5 เทคนิคเลือกกล่องลูกฟูกให้ประหยัดค่าส่ง และปกป้องสินค้าได้ดี

กล่องลูกฟูก เป็นมากกว่าบรรจุภัณฑ์ทั่วไป เพราะในยุคที่การขนส่งมีบทบาทสำคัญต่อธุรกิจออนไลน์ กล่องที่ดีต้องทั้ง ประหยัดค่าส่ง และ ปกป้องสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่จะเลือกกล่องลูกฟูกอย่างไรให้ตอบโจทย์ทั้งสองด้าน?

บทความนี้มีคำตอบ พร้อมเทคนิคง่ายๆ ที่ผู้ประกอบการหรือเจ้าของแบรนด์ควรรู้ก่อนสั่งผลิตหรือเลือกใช้กล่องลูกฟูกในธุรกิจของคุณ

เลือกขนาดกล่องให้พอดีกับสินค้า

หลายธุรกิจมักพลาดตรงที่ใช้กล่องใหญ่เกินความจำเป็น ทำให้ต้องเสียค่าส่งสูงขึ้น (โดยเฉพาะในระบบขนส่งที่คิดตามขนาด) และยังต้องใช้วัสดุกันกระแทกมากขึ้นอีกด้วย

เทคนิค: วัดขนาดสินค้าจริง รวมทั้งของแถมหรือใบเสร็จ แล้วเผื่อพื้นที่เล็กน้อย (0.5 – 1 นิ้ว) เพื่อให้พอดีกับการจัดวาง ลดการเคลื่อนตัวของสินค้า

เข้าใจประเภทของกล่องลูกฟูกก่อนเลือกใช้
เข้าใจประเภทของกล่องลูกฟูกก่อนเลือกใช้

เข้าใจประเภทของกล่องลูกฟูกก่อนเลือกใช้

กล่องลูกฟูกมีหลายแบบ เช่น 3 ชั้น, 5 ชั้น หรือ 7 ชั้น ซึ่งแต่ละแบบมีความหนาและความแข็งแรงแตกต่างกัน

เทคนิค:

  • สินค้าทั่วไปที่ไม่เปราะบาง ใช้ กล่องลูกฟูก 3 ชั้น ก็เพียงพอ
  • สินค้าที่มีน้ำหนักมากหรือแตกหักง่าย ควรใช้ กล่องลูกฟูก 5 ชั้น เพื่อเพิ่มความแข็งแรง
  • สำหรับส่งของระหว่างประเทศหรือสินค้ามูลค่าสูง เลือก 7 ชั้น เพื่อความปลอดภัยสูงสุด

ใช้กล่องแบบฝาชน (RSC) ประหยัดต้นทุนได้ดี

กล่องลูกฟูกแบบฝาชน (Regular Slotted Carton – RSC) เป็นรูปแบบกล่องที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะผลิตง่าย ราคาย่อมเยา และรองรับการพิมพ์ลายได้ด้วย

เทคนิค: หากสินค้าของคุณสามารถใส่ในทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าได้ง่าย ใช้ RSC จะช่วยให้ ต้นทุนกล่อง + ค่าขนส่งต่ำ กว่ากล่องทรงพิเศษแบบอื่น

น้ำหนักเบา แต่ต้องไม่บาง!

น้ำหนักของกล่องมีผลต่อค่าส่งโดยตรง ดังนั้นควรเลือกวัสดุที่มีความหนาเพียงพอต่อการปกป้อง แต่ยังน้ำหนักเบา

เทคนิค: ใช้กระดาษลูกฟูกเกรดคุณภาพที่น้ำหนักเบา แต่มีค่าความทนต่อแรงกด (BCT) สูง เช่น กล่องลูกฟูกแบบ E flute หรือ C flute ที่บางแต่แข็งแรง

ใช้บริการพิมพ์กล่องที่ผลิตได้ตามสเปกจริง

การเลือกโรงงานที่เชี่ยวชาญด้าน กล่องลูกฟูก จะช่วยให้คุณได้กล่องที่มีความหนาและขนาดตรงกับที่ต้องการ ไม่ต้องแก้ไขหลายรอบ ลดของเสีย และค่าส่งจากน้ำหนักหรือขนาดที่เกิน

เทคนิค: เลือกผู้ผลิตที่สามารถให้คำแนะนำด้านโครงสร้างกล่อง การเลือกชั้นกระดาษ และมีบริการขึ้น Mockup ให้ดูก่อนผลิตจริง

สรุป: เลือกกล่องลูกฟูกอย่างชาญฉลาด = ประหยัดต้นทุนและเพิ่มความน่าเชื่อถือ

การลงทุนในบรรจุภัณฑ์ที่ดี ช่วยให้คุณ:

  • ลดต้นทุนด้านขนส่งได้ในระยะยาว
  • สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ดูใส่ใจรายละเอียด
  • ลดความเสียหายระหว่างการจัดส่ง
  • สร้างประสบการณ์ที่ดีให้ลูกค้า ตั้งแต่แกะกล่อง

อยากได้กล่องลูกฟูกที่ออกแบบมาเพื่อลดค่าส่ง พร้อมเสริมแบรนด์ให้โดดเด่น?

ให้เราช่วยออกแบบและผลิตกล่องลูกฟูกที่ตรงกับความต้องการของธุรกิจคุณ ปรึกษาเรื่องแพ็คเกจจิ้งกับผู้เชี่ยวชาญได้เลยที่ https://pimdai.com/ แล้วมาช่วยกัน “คิดนอกกล่อง” เพื่อผลลัพธ์ทางธุรกิจที่ดีกว่า