Checklist สิ่งที่ต้องเตรียมก่อนสั่งผลิตชุดอุปกรณ์ออกบูธกับ Pimdai.com
การออกบูธในงานแสดงสินค้าหรืออีเวนต์ต่าง ๆ ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การตลาดที่สำคัญ เพราะเป็นโอกาสให้ธุรกิจได้เจอหน้าลูกค้าแบบตัวต่อตัว ได้พูดคุย อธิบายสินค้า และสร้างความประทับใจแรกที่ยากจะลืม แต่บ่อยครั้งการเตรียมงานกลับเต็มไปด้วยความเร่งรีบ ขาดระบบ หรือไม่ได้วางแผนล่วงหน้า ส่งผลให้เกิดปัญหา เช่น อุปกรณ์ไม่ครบ สีเพี้ยน การส่งงานล่าช้า หรือแม้แต่บูธที่จัดวางไม่เป็นระเบียบ
เพื่อป้องกันความผิดพลาดเหล่านี้ เราจึงได้รวบรวม Checklist สิ่งที่ควรเตรียมก่อนสั่งผลิตอุปกรณ์ออกบูธกับ Pimdai.com ที่จะช่วยให้คุณมั่นใจว่า “บูธของคุณจะออกมาสวย ครบ และพร้อมใช้งานจริง”

Checklist สิ่งที่ควรเตรียมก่อนสั่งผลิตอุปกรณ์ออกบูธกับ Pimdai.com
- วางแผนพื้นที่บูธล่วงหน้า
ขนาดของพื้นที่คือสิ่งแรกที่ต้องรู้ เพราะทุกอุปกรณ์จะถูกวางลงไปในพื้นที่นี้
- ตรวจสอบขนาดพื้นที่จากผู้จัดงาน เช่น 3×3 เมตร, 3×6 เมตร หรือบูธขนาดพิเศษ เพื่อป้องกันการเลือกอุปกรณ์ที่ใหญ่เกินไปจนเกะกะ หรือเล็กเกินไปจนไม่ดึงดูดสายตา
- กำหนด Layout เบื้องต้น เช่น Backdrop อยู่ด้านหลัง, Counter Table อยู่ด้านหน้า, Roll up วางด้านข้าง และ Standee ไดคัทตั้งตรงมุมเพื่อดึงสายตา
- เว้นพื้นที่ทางเดินให้ลูกค้าเข้ามาได้สะดวก ไม่อึดอัดเกินไป
เคล็ดลับ: ลองทำแผนผังง่าย ๆ หรือจำลองพื้นที่ในออฟฟิศด้วยการกั้น Tape เพื่อดูการจัดวาง จะช่วยให้คุณเห็นภาพจริงและคุยกับทีม Pimdai.com ได้ง่ายขึ้น
- กำหนดงบประมาณที่ชัดเจน
งบประมาณที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณได้คำแนะนำที่เหมาะสมที่สุด
- แยกงบสำหรับอุปกรณ์หลัก (Backdrop, Counter Table) และอุปกรณ์เสริม (Standee, X-banner, Roll up)
- เผื่องบประมาณสำหรับงานด่วนหรือค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น เช่น แก้ไขไฟล์หรือปรับงานพิมพ์
- การแจ้งงบประมาณให้ทีมงาน Pimdai.com รู้ตั้งแต่แรก จะทำให้ทีมช่วยเลือกอุปกรณ์และวัสดุที่คุ้มค่าและเหมาะสมที่สุด
ตัวอย่าง:
- SME ที่เพิ่งเริ่มต้นอาจตั้งงบ 10,000–20,000 บาท สำหรับเซ็ต Backdrop + Counter + Roll up
- บริษัทใหญ่ที่ออกงานแฟร์ระดับประเทศ อาจใช้งบ 50,000–100,000 บาท เพื่อให้ได้บูธครบชุดและดูพรีเมียม
- เลือกอุปกรณ์ที่จำเป็น
อุปกรณ์คือหัวใจของบูธ เพราะช่วยสร้างภาพลักษณ์และบรรยากาศที่น่าจดจำ
อุปกรณ์ยอดนิยมที่ควรมี:
- Backdrop ผ้า: ใช้เป็นฉากหลังหลัก ภาพคมชัด น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย เหมาะกับงานที่ต้องเคลื่อนย้ายบ่อย
- Counter Table: เป็นจุดต้อนรับลูกค้า ใช้วางสินค้า นามบัตร หรือโบรชัวร์ ช่วยเพิ่มความเป็นมืออาชีพ
- Roll up: ป้ายแนวตั้ง ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับโปรโมตสินค้า/บริการเฉพาะจุด เคลื่อนย้ายง่าย
- Standee ไดคัท: เพิ่มความน่าสนใจ ใช้เป็นพร็อพสำหรับถ่ายรูป ช่วยสร้างการแชร์ต่อบนโซเชียลมีเดีย
- X-banner / J-flag: ป้ายเสริมรอบ ๆ พื้นที่ ช่วยเรียกความสนใจจากผู้คนที่เดินผ่าน
เคล็ดลับ: ใช้โทนสีเดียวกันและดีไซน์ให้สอดคล้องกับ CI ของแบรนด์ จะช่วยให้บูธดูเป็นมืออาชีพและสร้างการจดจำได้ง่าย
- เตรียมไฟล์งานพิมพ์ให้พร้อม
ไฟล์งานพิมพ์ที่ดีคือจุดเริ่มต้นของงานคุณภาพ
- ใช้ไฟล์นามสกุล AI, PSD, หรือ PDF Vector เพื่อให้สามารถขยายได้โดยไม่แตก
- ตรวจสอบขนาดไฟล์ตามสเปก เช่น Backdrop 3×3 เมตร ต้องใช้ไฟล์ที่สามารถขยายใหญ่ได้โดยไม่เสียความคมชัด
- ฝังฟอนต์หรือ Convert เป็น Outline เพื่อป้องกันฟอนต์เพี้ยน
- ใช้รูปภาพความละเอียด 150–300 DPI ขึ้นไป
ปัญหาที่พบบ่อย: บางครั้งลูกค้าส่งไฟล์ JPG หรือ PNG ความละเอียดต่ำ พอขยายขึ้นบน Backdrop ภาพจะเบลอและเสียความน่าเชื่อถือ ดังนั้นการส่งไฟล์ที่ถูกต้องตั้งแต่แรกคือการลดความเสี่ยงที่ดีที่สุด
- กำหนดข้อความและคอนเทนต์ที่ชัดเจน
การออกแบบข้อความคือการสื่อสารโดยตรงกับลูกค้าที่เดินผ่าน
- หัวข้อหลัก (Headline) ต้องกระชับ เช่น “นวัตกรรมใหม่ ลดต้นทุนธุรกิจทันที”
- ใช้ Bullet Point เพื่อสรุปจุดเด่นให้เข้าใจง่าย เช่น “ติดตั้งง่าย / น้ำหนักเบา / ใช้งานซ้ำได้”
- เพิ่ม QR Code หรือลิงก์สั้น ๆ สำหรับลูกค้าที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม
ข้อควรเลี่ยง: อย่าใส่ข้อความยาวเกินไป เพราะคนที่เดินผ่านบูธจะใช้เวลาไม่กี่วินาทีตัดสินใจหยุดหรือเดินต่อ
- ตรวจสอบกำหนดการผลิตและจัดส่ง
การจัดการเวลาเป็นหัวใจสำคัญของการออกบูธ
- โดยทั่วไปการผลิตใช้เวลา 5–7 วันทำการ แต่หากเป็นงานด่วน Pimdai.com สามารถเร่งผลิตได้
- ควรเผื่อเวลา 2–3 วันสำหรับการจัดส่ง เพื่อให้มั่นใจว่างานถึงมือก่อนวันจริง
- ยืนยันสถานที่จัดส่งกับทีมงานให้ชัดเจน เพื่อลดปัญหาการขนส่งผิดพลาด
Tip: ทำ Timeline ของคุณเอง เช่น “สรุปไฟล์ Artwork วันที่ 1 / ผลิตวันที่ 2–6 / ส่งงานวันที่ 7” จะช่วยให้ทุกอย่างเป็นระบบ
- เตรียมทีมงานสำหรับติดตั้ง
แม้อุปกรณ์จาก Pimdai.com จะติดตั้งง่าย แต่การมีทีมงานช่วยก็ทำให้งานไหลลื่นยิ่งขึ้น
- Backdrop ผ้าและ Roll up ติดตั้งง่าย ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาที
- หากเป็นบูธขนาดใหญ่ ควรมีทีมอย่างน้อย 2–3 คนช่วยกันจัดเรียงอุปกรณ์
- หากไม่สะดวกติดตั้งเอง สามารถสอบถามบริการติดตั้งจาก Pimdai.com ได้
ข้อดี: การมีทีมช่วยติดตั้งทำให้คุณโฟกัสกับการต้อนรับลูกค้าแทนที่จะกังวลเรื่องอุปกรณ์
- ตรวจสอบงานซ้ำก่อนยืนยัน
ขั้นตอนเล็ก ๆ แต่ช่วยป้องกันความผิดพลาดได้มหาศาล
- ตรวจสอบ Artwork: สี โลโก้ และตัวอักษรถูกต้องหรือไม่
- เช็กขนาดอุปกรณ์ตรงกับพื้นที่จริง
- ตรวจสอบข้อความบนป้ายให้แน่ใจว่าไม่มีคำผิด และสื่อสารเข้าใจง่าย
ทำไมสำคัญ? เพราะการแก้งานพิมพ์ทีหลังเสียทั้งเงินและเวลา การตรวจสอบรอบสุดท้ายเพียงไม่กี่นาทีช่วยให้คุณมั่นใจได้ 100%
เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับมือใหม่ออกบูธ
- เลือกใช้ แพ็กเกจออกบูธสำเร็จรูป จาก Pimdai.com เช่น Backdrop + Counter + Roll up สำหรับผู้เริ่มต้น ช่วยประหยัดเวลาและคุ้มค่า
- ใช้ดีไซน์ที่สอดคล้องกับ CI ของแบรนด์ เพื่อสร้างการจดจำในระยะยาว
- เตรียมอุปกรณ์เสริม เช่น ปลั๊กพ่วง โคมไฟ Powerbank และนามบัตร เพื่อให้บูธทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
- ลองประกอบอุปกรณ์ที่ออฟฟิศก่อนวันงาน เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างพร้อมใช้งานจริง
สรุป Checklist ที่ช่วยให้คุณมั่นใจก่อนสั่งผลิต
การเตรียมงานออกบูธอาจดูซับซ้อน แต่หากคุณมี Checklist ที่ชัดเจน ทุกอย่างจะง่ายขึ้น การสั่งผลิตกับ Pimdai.com ช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการครบวงจร ตั้งแต่การดีไซน์ พิมพ์ ผลิต จนถึงจัดส่ง
ผลลัพธ์คือบูธที่สวย ครบ ดูมืออาชีพ และพร้อมใช้งานจริง คุณจึงสามารถทุ่มเวลาไปกับสิ่งที่สำคัญที่สุด — การนำเสนอสินค้าและปิดการขาย
เมื่อถึงเวลาต้องออกบูธครั้งต่อไป อย่าลืมเปิด Checklist นี้ แล้วสั่งงานกับ Pimdai.com ที่เดียว จบครบทุกความต้องการ
หากคุณกำลังมองหางานพิมพ์คุณภาพครบวงจร ติดต่อสอบถาม ขอคำปรึกษา และสั่งซื้อได้ที่ Line @pimdai หรือเยี่ยมชมผลงานคุณภาพได้ที่ www.pimdai.com เปลี่ยนงานพิมพ์ของคุณให้โดดเด่นและน่าจดจำยิ่งขึ้น ด้วยบริการจาก Pimdai.com วันนี้!